รายงานข่าวกล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา มีโจรยโมยสมบัติสุสาน 5 คน ลอบเข้าไปขุดสุสานโบราณแห่งหนึ่ง ในเมืองซีอาน มณฑลซานซี แต่เกิดเหตุโจร 2 คน พลัดกลุ่ม และติดอยู่ในสุสาน ไม่สามารถกลับขึ้นมาได้ จนทำให้พวกที่เหลืออีก 3 คน จึงต้องแจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นฯ อันเป็นผลให้ทั้ง 5 คนถูกจับกุมตัว


อย่างไรก็ตาม มีโจรคนหนึ่งอาศัยจังหวะหลบหนีไปได้ และอยู่ระหว่างติดตามจับตัว ขณะที่โจรอีก 4 คนนั้น สองคนที่ติดอยู่ในสุสาน มีคนหนึ่งได้เสียชีวิตไปก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือทัน ขณะที่อีกคน เสียชีวิตระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล

ทั้งนี้ คดีเกี่ยวกับขุดปล้นทรัพย์สินมีค่าในสุสานนั้น เป็นอาชญากรรมที่แม้มีโทษรุนแรง แต่ก็ยังมีผู้ฝ่าฝืนตลอดเวลา


ก่อนหน้านี้ ก็มีโจรสุสาน ขุดเจอร่างมัมมี่เจ้าหญิงไทอยู่ในสุสานอายุกว่า 2000 ปี ซึ่งยังมีสภาพสมบูรณ์เหลือเชื่อ กระทั่งเลือดยังไม่แข็งตัว แม้จะมีอายุประมาณว่ากว่า2000 ปีแล้ว โดยบรรดาโจรสุสานได้พัฒนาเครื่องไม้เครื่องมือในการขุดขโมยที่ไม่ใช่มีเพียงแค่แรงงาน และดวงโชค

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า กลุ่มโจรสุสานล้ำค่ำเหล่านี้ บางคนมีความรอบรู้เกี่ยวกับศาสตร์ฮวงจุ้ย
ฮวงซุ้ย ต่างๆ ประกอบกับเทคโนโลยีนำทางอันทันสมัย และทุกวันนี้ยังมีการลับลอบขุด และค้นหาสุสานโบราณจีนซึ่งเชื่อว่า ตลอดอารยธรรมจีน 5,000 ปีโบราณวัตถุมีค่าหายากของจีนนั้น
ล้วนถูกเก็บซ่อนฝังอยู่ในสุสานลับจำนวนมาก โดยสุสานเหล่านี้มีหลายร้อยแห่ง ที่มีการออกแบบผังสุสานอย่างลึกลับซับซ้อน ยากที่จะค้นพบจากนักขุดทั่วไป และหากค้นพบ คนเหล่านั้นก็ยากที่จะรอดชีวิตออกมาจากสุสาน


ในรอบร้อยปีที่ผ่านมาสุสานโบราณต่างๆ จำนวนมากต่างถูกบุกรุกรื้อค้น โดยเฉพาะจากการกระทำของยุวชนแดง (Red Guards) ในยุคปฏิวัติวัฒนธรรมของประธานเหมาฯ


ซึ่งหากย้อนนับดูแล้วมากเกือบ 9 ใน 10 ที่ถูกรื้อทำลาย ด้วยเหตุผลทางวัฒนธรรม ขณะที่ในเวลาต่อมา ได้มีการรื้อขโมยทรัพย์สมบัติ จากสุสานจำนวนมากในจีน ซึ่งกลายเป็นช่องทางรวยของโจรตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องกับเรื่องของการปฏิวัติทางวัฒนธรรมอีกต่อไป แต่เป็นเพราะความต้องการผู้ซ์้อซึ่งเป็นชาวตะวันตก เพิ่มจำนวนมากขึ้น


ด้านของรัฐบาลจีนปัจจุบัน ซึ่งเป็นยุค สี เจิ้น ผิง มีการพัฒนาประเทศอย่างก้าวกระโดด จึงได้ประกาศเป็นกฏมาย อย่างเป็นทางการที่จะพิทักษ์สุสาน และปกป้องทรัพย์ สมบัติล้ำค่าทุกชิ้นที่ถูกขโมยไปจากสุสาน พร้อมตั้งชุดเจ้าหน้าที่ฯ พิเศษ สืบตามล่าสมบัติชาติกลับคืนมาให้ได้ ไม่ว่าจะหลุดลอยไปอยู่ในประเทศใด ณ ที่แห่งใดในโลก

สำหรับเรื่องราวในแฟ้มลับ ที่ได้นำมาเปิดเผย ซึ่งเป็นแฟ้มของคดีโจรลักลอบขุดสุสานจักพรรดิ์จีนนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุคสาธารณรัฐจีน(ค.ศ.1912-1949) ที่มีเก้าสกุลใหญ่ซึ่งเรียกขานกันว่า “นายทหารเก้าประตู” รับหน้าที่ปกป้องเมืองฉางซา มณฑลหูหนัน

โดยจากในบันทึกข้อความอันปรากฏในแฟ้มคดี มีข้อความว่า….

“….ในคืนหนึ่งของฤดูใบไม้ร่วงปี 1933 ได้มีขบวนรถไฟลึกลับ ที่ด้านในเต็มไปด้วยศพทหารญี่ปุ่นนับร้อย เต็มทุกโบกี้ และยังมีโลงศพจำนวนมากมาย เรียงรายซ้อนกัน อยู่ในขบวนรถไฟปริศนา ที่เข้ามาจอดในสถานีรถไฟเมืองฉางซา โดยไม่มีตารางกำหนดเวลาใด ๆ ทั้งสิ้น

จางฉี นายหารเมืองฉางซา ผู้มีฉายาว่า “พ่อพระใหญ่จาง”(เพราะใช้แซ่จาง) ซึ่งเป็นผู้นำของกลุ่มเก้าสกุลแซ่ (พวกเขาทั้งเก้าสกุลแซ่ ได้สาบานเป็นพี่น้องกัน) ได้ยกย่องให้จาฉีเป็นผู้นำกลุ่ม ทั้งนี้จางฉีมีตำแหน่งทางราชการ เป็นนายทหารดูแลประตูเมืองฉางซา จากการแต่งตั้งจากทางราชการ พร้อมตระกูลแซ่อีก ๘ ตระกูล รับหน้าที่ให้ดูแลความสงบเรียบร้อยของประตูเมืองฉางซา รับผิดชอบตระกูลละประตู

เมื่อเกิดคดีประหลาด ที่มีรถไฟนำคนตาย และโลงศพ จำนวนมากมาจอดที่สถานีฉางซา โดยไม่ปรากฏอยู่ในตารางเดินรถปกติ ซึ่งต้องรายงานไปยังทุกสถานีที่รถไฟวิงผ่าน แต่ไม่ปรากฏเอกสารแจ้งการเดินรถนี้แม้แต่ชิ้นเดียว ทางราชการจึงให้สืบสวน ตรวจสอบ เรื่องราวทั้งหมด ให้กระจ่าง และรายงานหน่วยเหนือให้ทราบโดยด่วนที่สุด

ต่อมาหลังจาก ที่จางฉีซานและกลุ่มเก้าสกุลได้ตรวจสอบเรื่องราวต่าง ๆ แล้ว ก็พบว่ามีเหมืองปริศนานอกเมืองฉางซาและนายทหารชาวญี่ปุ่นจำนวนมากกำลังเฝ้าดจางฉีซานต้องการความช่วยเหลือในการไขปริศนาที่เหมืองจาก“เอ่อเยว่หง” ซึ่งเกิดในครอบครัวนักโบราณคดี มาช่วยหาหลักฐานอันอาจเกี่ยวข้องกับการตายอย่างมากมาย ที่เกิดขึ้นนี้….

ศึกษาข้อมูลใน “แฟ้มลับ”… Click ….

By admin