:: จักพรรดินีไท บูเซกเทียน :: ภาค 1 :: EP 5

 EP1   EP2   EP3   EP4   EP5   EP6   EP7   EP8   EP9   EP10


ณ ริมฝั่งแม่น้ำเจียหลิงเจียง (嘉陵江) เมืองกว่างหยวน (广元) ทางตอนเหนือของมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ติดต่อกับเมืองฮั่นจงของมณฑลส่านซี บนเส้นทางสามก๊กในเสฉวน (ซานกว๋อสู่เต้า 三国蜀道) มีพุทธคูหาจำหลักแห่งหนึ่งสร้างขึ้นในสถานที่เชื่อถือกันว่าคือ บ้านเกิดของพระนางบูเช็คเทียน (อู่เจ๋อเทียน 武则天) จักรพรรดินีไทบูเซกเทียน ทรงเป็นพระองค์แรกและพระองค์เดียวของประวัติศาสตร์ชนชาติไท ซึ่งนักประวัติศาสตร์ยุคปฏิวัติวัฌนธรรมเมาเจ๋อตง (เพราะเมาเซตุง เป็นชาวตง หรือ ชาวตงหนู หรือ สงหนู ก็คือ "ชาวจีน") จึงได้ปรับแปลงประวัติศาสตร์ของชนชาติไททั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่จักพรรดินีเไทบูเซกเทียน กลายพันธุ์ไปเป็นชาวตง หรือชาวจีน ดังปรากฏในตำราประวัติศาสตร์ทุกฉบับของประเทศจีนในปัจจุบัน


หมู่พุทธคูหาแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ วัดหวงเจ๋อ (皇泽寺) ซึ่งมีประวัติการสร้างขึ้นในปีแรกของรัชศกไคหย่วน จักรพรรดิถังเสวียนจง หรือตรงกับค.ศ.๗๑๓ ถือเป็นวัดประจำรัชกาลของจักรพรรดินีบูเช็คเทียน ภายในวัดหวงเจ๋อประกอบขึ้นด้วยสถานที่สำคัญหลายแห่ง ที่สำคัญคือ ตำหนักเอ้อเซิ่งเตี้ยน (二圣殿) สถานที่ประดิษฐานรูปเคารพของจักรพรรดิถังเกาจงคู่กับพระมเหสีบูเช็คเทียน และเหล่าขุนนางเอกฝ่ายบุ๋นและบู๊ผู้รู้ใจในรัชสมัยของทั้งสองพระองค์


ลำดับต่อมาคือ ตำหนักเจ๋อเทียน (则天殿) สถานที่ประดิษฐานรูปปั้นศิลาปิดทองเป็นรูปเหมือนของพระนางบูเช็คเทียนในวัย ๖๐ พระชันษา (ขณะนั้นยังไม่ได้เสด็จขึ้นครองราชย์) ที่ปั้นขึ้นเหมือนพระองค์จริง ทรงสวมมงกุฎในอิริยาบถนั่งสมาธิ มีเพียงหนึ่งเดียวในประเทศจีน ภายในยังจัดแสดงผลงานทางพระพุทธศาสนาของพระองค์ รวมทั้งตัวอักษรจีนประดิษฐ์ใหม่ที่ทรงให้ใช้ในราชสำนักอู่โจว


บริเวณใกล้เคียงบนหน้าผาริมฝั่งแม่น้ำเจียหลิงเจียงมีมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของมณฑลชื่อชวน คือหมู่พุทธคูหาอายุกว่า ๑,๓๐๐ ปีที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ ๖ พุทธคูหา ๕๐ โพรงถ้ำ ในจำนวนนี้ มีพระพุทธรูปจำหลักองค์น้อยใหญ่คงเหลือรวม ๑,๒๐๓ องค์ ส่วนใหญ่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ถังยุครุ่งเรือง โดยเฉพาะบริเวณที่เรียกว่า ต้าฝอโหลว (大佛楼) หรือพุทธคูหาต้าฝอ (大佛石窟) มีความสูง ๗ เมตร ยาว ๖ เมตร ลึก ๓.๖ เมตร นับเป็นหัวใจของวัดหวงเจ๋อซื่อ


พระพุทธรูปองค์ประธานที่สำคัญที่สุดคือ พระอมิตภพุทธเจ้าประทับบนดอกบัว สองข้างมีสองพระอัครสาวกคือ พระมหากัสสปะเถระกับพระอานนท์เถระ ถัดออกมาเป็นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร (กวนอิน) และพระโพธิสัตว์มหาสถามปราปต์ (ต้าซื่อจื้อ) ด้านหลังมีรูปแกะสลักเหล่าเทพธรรมบาล พระวัชรปาณี อยู่รายล้อมพระอมิตภพุทธเจ้า รูปจำหลักต้าฝอโหลวนี้ได้รับการยกย่องว่า เป็นงานช่างฝีมือในสมัยราชวงศ์ถังที่ประณีตสวยงามและยังคงอนุรักษ์ไว้ได้ดีที่สุดที่อยู่ในเขตมณฑลเสฉวนทางตอนใต้ของศูนย์กลางอำนาจของราชสำนักจีน นอกจากนั้น บริเวณข้างเคียงต้าฝอโหลวยังมีหมู่พุทธคูหาใหญ่น้อยรวมทั้งโพรงผาที่แกะสลักเป็นรูปพระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ เทพธรรมบาล ฯลฯ ขนาดองค์น้อยใหญ่อีกเป็นจำนวนมาก

หวงเจ๋อซื่อจึงเป็นหนึ่งในพุทธคูหาในอันทรงคุณค่าของมณฑลซื่อชวน คู่ควรเป็นวัดประจำรัชกาลจักรพรรดินีบูเช็คเทียนอย่างแท้จริง


เมื่อจักรพรรดิถังเกาจงเสด็จสวรรคต พระนางบูเซ็กเทียนได้ออกว่าราชการ โดยอยู่เหนือจักรพรรดิสองพระองค์คือถังจงจงและถังรุ่ยจง จนกระทั่งในปีค.ศ.๖๙๐ ในวัย ๖๗ ชันษา พระองค์จึงเสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติขึ้นเป็นจักรพรรดินีพระองค์แรกและพระองค์เดียวของประวัติศาสตร์จีน เปลี่ยนชื่อราชวงศ์เป็นอู่โจว (武周) (เนื่องจากกฎมณเฑียรบาลในสมัยนั้น ห้ามมิให้สตรีขึ้นสืบราชบัลลังก์) ทำให้ความต่อเนื่องของราชวงศ์ถังต้องสะดุดลงในช่วงระยะเวลาหนึ่ง


ในยุคสมัยนี้ แผ่นดินจีนมีเสถียรภาพและเจริญวัฒนาไพบูลย์อย่างสูงยิ่งที่สุดช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์ ทั้งเศรษฐกิจ การเกษตร สังคม การเมือง การศึกษา การสอบเข้ารับราชการอย่างเป็นระบบ รวมทั้งพระพุทธศาสนาที่ได้จำเริญอย่างสูงสุดช่วงหนึ่งในแผ่นดินมังกร ในยุคสมัยของพระองค์เป็นการสานต่อความเจริญของยุคเจินกวน (จักรพรรดิถังไท่จง) และส่งต่อไปยังยุคไคหย่วน (จักรพรรดิถังเสวียนจง) ได้อย่างสง่างามยิ่ง พระองค์เสด็จสวรรคตในวันที่ ๑๖ ธันวาคม ค.ศ.๗๐๕ ครองสิริราชย์สมบัติได้ ๑๕ ปี นับเป็นระยะเวลาที่แผ่นดินจีนเจริญอย่างสูงสุดช่วงเวลาหนึ่งในประวัติศาสตร์ มาดามซ่งชิ่งหลิง (宋庆龄) ศรีภริยาดร.ซุนจงซาน บิดาแห่งชาติจีน ได้เขียนสดุดีพระนางบูเช็คเทียนไว้ที่หวงเจ๋อซื่อว่า “อู่เจ๋อเทียนจักรพรรดินีเพียงหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติจีน เป็นสตรีสมัยศักดินาผู้เปี่ยมด้วยความสามารถในการบริหารปกครองประเทศ”


จักรพรรดินีบูเช็คเทียนทรงได้รับการยกย่องจากการโหวต ของประชาชนในประเทศจีนมาตลอดหลายยุคสมัยว่า ทรงเป็น ๑ ใน ๑๐ จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล

.