:: จักพรรดินีไท บูเซกเทียน :: ภาค 1 :: EP 1

 EP1   EP2   EP3   EP4   EP5   EP6   EP7   EP8   EP9   EP10


จักพรรดินีบูเซ็กเทียน ทรงเกิดในตระกูลอู่ เชื้อสายไทจ้าว(โจว) โดยมารดาเป็นเชื้อพระวงศ์ คือเป็นราชธิดาในราชวงศ์สุย ทรงกำเนิดในรัชสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดิถังเกาจู่ ต่อมาประเทศจีนเปลี่ยนแปลงการปกครองในยุคเมาเซตุง จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ประเทศใหม่(แผนปฏิวัติทางวัฒนธรรมเหมาเจ๋อตุง) ข้อมูลใหม่จึงกลายเป็นบูเซ็กเทียน เกิดที่เมืองฉางอาน (ปัจจุบันคือเมืองซีอาน)

จักพรรดินีบูเซกเทียน ประสูติเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 1167 และ สวรรคตในวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 1248


บูเซ็กเทียน จัดว่าเป็นราชนิกูลโดยกำเนิด เพราะพระราชมารดาของจักรพรรดินีบูเซกเทียน (อู่ เจ๋อเทียน) นั้นเดิมทรงเป็นราชนิกูลเชื้อสายพระราชวงศ์สุย (隋朝) ที่ปกครองแผ่นดินมาก่อนราชวงศ์ถัง ซึ่งท่านหญิงหยาง พระราชมารดาของพระนางนั้นเดิมเป็นพระนัดดาของกวนหวัง (关王) หรือพระนามเดิม หยางสง ซึ่งเป็นพระญาติสนิทของสมเด็จพระจักรพรรดิสุยหยางตี้ (พระนามจริงว่า หยางกว่าง) จักรพรรดิองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์สุย จึงนับได้ว่าท่านหญิงหยางเป็นผู้เกิดในชาติตระกูลสูง หากราชวงศ์สุยมิได้ล่มสลายลงไปเสีย อู่ซื่อฮั่วคงมิได้มีโอกาสพบองค์หญิงหยาง แต่เมื่อราชวงศ์สุยล่มสลายไป องค์หญิงหยางจึงจำต้องหาที่พึ่งพิง สตรีในยุคนั้นมีทางเลือกไม่มากนัก เนื่องจากขณะนั้นพระองค์เป็นเพียงสมาชิกราชวงศ์ที่ตกยาก ซึ่งอู่ซื่อฮั่วเองก็ต้องการที่หาภริยาที่จะมาส่งเสริมเชิดชูเกียรติของตนเองเช่นกัน โดยเฉพาะในยามที่ต้องออกสังคมกับพวกขุนนาง ซึ่งก็มักจะเป็นผู้เกิดในตระกูลสูงเสียเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นองค์หญิงเชื้อสายราชวงศ์สุยอย่างองค์หญิงหยางจึงเป็นที่หมายปองของอู่ซื่อฮั่วเป็นอย่างมาก เมื่อความต้องการของทั้งสองฝ่ายตรงกัน องค์หญิงหยางจึงทรงสมรสกับอู๋ซื่อฮั่ว และถูกเรียกขานนามว่าท่านหญิงหยาง นับแต่นั้นมา


ครั้นต่อมาเมื่อท่านหญิงหยางได้ให้กำเนิดทารกน้อยบูเช็กเทียน (อู่ เจ๋อเทียน) ได้มีบันทึกเรื่องราวไว้ว่า "...มีโหรใหญ่คนหนึ่งชื่อ "หยวนเทียนกัง" มาเห็นทารกน้อยที่น่ารักคนนี้ และนึกว่าเป็นเด็กชายจึงออกปากทักไปว่า เด็กคนนี้ถ้าหากเป็นหญิงล่ะก็ ต่อไปจะได้เป็นใหญ่ที่สุดในแผ่นดินจีนเป็นแน่ ยิ่งกว่านั้นเมื่อบูเช็กเทียนได้เข้าวังไปแล้ว โหราจารย์แห่งราชสำนักยังได้พยากรณ์สำทับอีกว่า ต่อไปสตรีแซ่อู่จะมีอำนาจ และสร้างราชวงศ์ถังให้ยิ่งใหญ่ระบือไกลไปชั่วนิรันดร์.." ซึ่งก็เป็นจริงตามคำทำนายของโหราจารย์ทั้งสองนั้นทุกประการ

จักรพรรดินีอู่ ประสูติในปีที่ 7 แห่งรัชสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดิถังเกาจู่ โดยปีนั้นเป็นปีที่เกิดสุริยุปราคาเต็มดวง (total eclipse of the Sun) ซึ่งสามารถมองเห็นได้ทั่วแผ่นดิน บิดาของพระนางคือ อู่ ซึ่อฮั่ว (武士彠) ซึ่งเป็นคหบดีที่มีฐานะร่ำรวยคนหนึ่ง ทำกิจการค้าไม้สักที่ใช้ในการสร้างปราสาทพระราชวัง ของกษัตริย์ทุกแว่นแคว้น


ในช่วงปีสุดท้ายของรัชสมัยสมเด็จพระจักรพรรดิสุยหยางตี้ นั้น หลี่ยวน (李淵) ผู้มีตำแหน่งแม่ทัพขุนนางในราชวงศ์สุย ซึ่งภายหลังกลายเป็นจักรพรรดิถังเกาจู่แห่งราชวงศ์ถังได้เข้าพักอาศัยอยู่ในบ้านของตระกูลอู่ (หรือบู) หลายครั้งจนมีความสนิทสนมกับตระกูลนี้ หลังจากหลี่หยวนล้มล้างอำนาจของสมเด็จพระจักรพรรดิสุยหยางได้แล้ว พระองค์ได้ตอบแทนตระกูลอู่ด้วยเงินทอง เมล็ดพันธุ์พืช ที่ดิน และแพรพรรณเนื้อดีต่าง ๆ เป็นอันมาก และเมื่อสถาปนาราชวงศ์ถังสำเร็จ อู่ซี่อฮั่วได้รับตำแหน่งเสนาบดีอาวุโสและตำแหน่งผู้ครองเมืองหยางโจว ลี่โจว และจิงโจว (Jingzhou; จีน: 荊州) ปัจจุบันคือ เขตเจียงหลิง (江陵县) ในมณฑลหูเป่ย์ ต่อมาสมเด็จพระจักรพรรดิเกาจู่ได้สละราชสมบัติ พระราชโอรสของพระองค์ คือ เจ้าชายหลี่ซื่อหมิน (李世民) จึงได้ขึ้นครองราชย์ต่อเป็นถังไท่จงฮ่องเต้ ดังปรากฏในประวัติศาสตร์

อู่ เจ๋อ เทียน(บูเซกเทียน) ได้รับการบ่มเพาะ ปลูกฝังอุดมการณ์ ที่จะสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับชนชาติไท จากพระมารดา ดังนั้นจึงไม่เป็นที่แปลกใจว่าเหตุใด จึงเต็มใจที่จะส่งบุตรีเข้าวัง เพราะทั้งหมดมารดาของอู่เจ๋อเทียนได้มีวางกุศโลบายไว้เรียบร้อยสมบูรณ์แบบ และทุกอย่างก็เป็นไปตามปณิทานของพระมารดา อู๋เจ๋อเทียน ได้ขึ้นเป็นจักพรรดินีไทองค์แรก ที่ได้สร้างความเจริญก้าวหน้า ทั้งทางด้านศิลป วิทยาการ ปรัชญา ศาสนา และการปกครอง นำความเจริญ มั่งคั่ง มาให้แก่แผ่นดิน และชนชาติไททุกหมู่เหล่า เผ่าชน อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ จนเป็นที่รู้จักไปในโลกกว้างอย่างเป็นอมตะ

.