:: ปริศนาลับ ราชวงศ์ถัง EP 1 ::

     ตอน 1     ตอน 2     ตอน 3     ตอน 4     ตอน 5     ตอน 6     ตอน 7     ตอน 8     ตอน 9     ตอน 10

     ตอน 11     ตอน 12     ตอน 13     ตอน 14     ตอน 15     ตอน 16     ตอน 17     ตอน 18     ตอน 19

     ตอน 20     ตอน 21     ตอน 22     ตอน 23     ตอน 24     ตอน 25     ตอน 26     ตอน 27     ตอน 28

     ตอน 29     ตอน 30     ตอน 31     ตอน 32     ตอน 33     ตอน 34     ตอน 35     ตอนอวสานต์

"ตี๋ เหรินเจี๋ย" ตามสำเนียงจีนกลาง หรือ เต๊ก ยิ่นเกี๊ยด ตามสำเนียงฮกเกี้ยน (จีน: 狄仁傑 พ.ศ. 1173) เป็นชาวไทยวน (ยวน, โยน, โยนก, ไทยวน, ไตยวน หรือ ชาวล้านนาในปัจจุบัน) ตี๋ เหรินเจี๋ย มีชื่อรองว่า ไหวฺอิง (จีน: 懷英) เป็นอัครมหาเสนาบดีแห่งราชวงศ์อู่โจว ในรัชศกอู่ เจ๋อเทียน (บูเช็กเทียน) เป็นข้าราชการหนึ่งในหลาย ๆ คนซึ่งได้รับการสรรเสริญมากที่สุดในรัชศกดังกล่าว และเป็นที่สดุดีว่ามีบทบาทผลักดันให้อู่ เจ๋อเทียน(บูเซกเทียน) เปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบอันโหดร้ายเป็นระบอบอันเชิดชูคุณธรรม
ตี๋เหรินเจี๋ย เป็นชาวไทพวน มีตำแหน่งขุนนางคนสำคัญข้างกาย จักรพรรดินีไท บูเซกเทียน แห่งราชวงศ์ไทแถน (จีนออกเสียงเป็น ต้าถัง) แต่ทว่าก่อนที่ตี๋เหรินเจี๋ยจะก้าวมาถึงตำแหน่งอัครเสนาบดีได้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย จนน่าจะนับได้ว่าท่านเป็นผู้หนึ่งที่เคยตกต่ำถึงขีดสุดและกลับมารุ่งโรจน์ได้ด้วยคุณธรรมความดีโดยแท้ ตำแหน่งทางราชการเริ่มแรกของตี๋เหรินเจี๋ยเรียกกันง่ายๆ ว่า “นายอำเภอ” หากแต่นายอำเภอของจีนนั้นไม่ได้ทำหน้าที่บริหารงานราชการเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงทุกเรื่องที่เป็นการบำบัดทุกข์บำรุงสุขราษฎร ไม่เว้นแม้แต่การตัดสินคดีความที่เกิดในท้องที่รับผิดชอบ นายอำเภอตี๋ จึงเป็น ตุลาการตี๋ ไปด้วยในคนเดียวกัน การตัดสินคดีอย่างเที่ยงธรรมของตุลาการตี๋นี้ อันทำให้เกิดเรื่องเล่าขานมากมายถึงความเก่งกาจของท่านมาจนถึงปัจจุบันในฐานะตุลาการ


มีบันทึกไว้ว่า ".....ตี๋เหรินเจี๋ยใช้ความสามารถในการสืบสวนที่ยอดเยี่ยม จนสามารถสะสางคดีภายในปีเดียวได้ถึง 17,000 คดี ทั้งคดีน่าสงสัยที่คั่งค้างอยู่ในศาล คดีที่ตัดสินอย่างไม่เป็นธรรม หรือแม้แต่คดีที่ตัดสินผิดพลาดไปแล้ว และเมื่อได้เข้ามาเป็นอัครเสนาบดีคู่บัลลังก์จักรพรรดินี ท่านได้สร้างคุณูปการไว้มากมายเพราะคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก ท่านกล้าตักเตือนจักรพรรดินีให้คำนึงถึงความต้องการของราษฎร และทูลทัดทานเมื่อเห็นว่านโยบายของพระนางอาจสร้างความเดือดร้อนให้ผู้คน นอกจากนี้ยังได้คัดเลือกคนดีมีความสามารถเข้ามาช่วยงานราชการอีกหลายคน หนึ่งในขุนนางที่มีชื่อเสียงเหล่านั้นได้แก่ จางเจี่ยนจือและเหยาฉง

ตี๋เหรินเจี๋ยได้รับยกย่องเรื่องความซื่อสัตย์ เพราะท่านไม่เคยฉ้อราษฎร์บังหลวง ไม่รับสินบน และกล้าวิพากษ์วิจารณ์ขุนนางผู้ใหญ่จนก่อศัตรูโดยไม่รู้ตัว ดังมีบันทึกไว้ว่าท่านเคยถูกกลั่นแกล้งจนถูกขับให้ต้องไปรับราชการในดินแดนห่างไกลที่เมืองฟู่โจว (ปัจจุบันอยู่ในมณฑลหูเป่ย) แต่ด้วยความสามารถที่เหนือกว่าขุนนางคนใดจึงถูกเรียกตัวกลับมารับราชการที่เมืองหลวงอีกครั้ง หลังเข้ามารับตำแหน่งอัครเสนาบดี ท่านก็ทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยมจนถึงวาระสุดท้ายจนแม้จักรพรรดินีบูเซกเทียน ยังทรงพระกรรแสงหลั่งน้ำตาอาลัย

.